บ่าวสาวที่กำลังเตรียมตัวสู่งานแต่งงาน ต่างคาดหวังให้งานแต่งงานออกมาราบรื่นดั่งใจหวัง สวยงาม และมีสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นคุณทั้งคู่ แขกในงานรู้สึกประทับใจและมีความสุขที่ได้มาร่วมงาน ซึ่งธีมงานแต่งงาน หรือ สีธีมงานแต่ง หรือโทนสีในงานแต่ง ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้งานแต่งของคุณออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
แต่ก่อนจะไปดูว่าธีมงานแต่งงานควรเป็นแบบไหน หรือมีวิธีเลือกธีมงานแต่งงานแบบใด บ่าวสาวหลายท่านอาจสงสัยว่าธีมงานแต่งงาน คืออะไร โดยธีมหมายถึงรูปแบบหลักในการจัดงาน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการตกแต่งสถานที่ การออกแบบการ์ดเชิญ เมนูอาหาร ชุดแต่งกายของผู้มาร่วมงาน กำหนดการต่างๆของงานแต่งงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างกลมกลืน การมีธีมงานแต่งงานจะทำให้เกิดความชัดเจนของงาน ทำให้การสื่อสารกับแขกและทีมงานการจัดงานแต่งงานสะดวก รวดเร็ว และเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ธีมงานแต่งงานยังทำให้บรรยากาศภาพรวมในงานแต่งงานดูพิเศษ ภาพถ่ายที่ได้ก็จะสวยงามไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งปัจจุบันมีคู่รักที่จัดงานที่อิมแพ็คหลายคู่เริ่มจัดงานแต่งที่มีความเป็นธีมงานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยอิมแพ็คเวดดิ้งได้รวบรวมธีมงานแต่งที่คาดว่าในปี 2024 จะเป็นธีมงานแต่งที่เป็นที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่
1.งานแต่งแบบยั่งยืน (Sustainable Weddings)
เมื่อคนเริ่มตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุจากสภาพการณ์ของโลกของเราที่ได้เปลี่ยนไป และหากคุณอยากเป็นส่วนหนึ่งที่อยากช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น งานแต่งงานที่เน้นเรื่องความยั่งยืนจะเป็นธีมงานแต่ง ปี 2024 ที่ตอบโจทย์ ว่าที่บ่าวสาวสามารถนำวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในงานแต่งได้ เช่น กระดาษโปรยที่ได้ใช้เพียงครั้งเดียว ก็เลือกเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ หรือเลือกใช้เมนูจากแถบท้องถิ่นและเป็นเมนูออร์แกนิก ไปจนถึงการเลือกของชำร่วยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การจัดธีมงานแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่ช่วยโลกเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความหมายให้กับวันสำคัญของคุณอีกด้วย
2.สร้างงานแต่งให้กลายเป็นคอนเทนต์ (On-the-Day Content Creation)
ว่าที่บ่าวสาวคนไหนอยากจัดธีมงานแต่ง ปี 2024 ให้สนุกสุดเหวี่ยง เป็นที่จดจำ และอวดคนบนโซเชียลว่างานแต่งของเรามันเลิศแค่ไหน ลองเชิญอินฟลูเอนเซอร์หรือขอให้เพื่อน ๆ ชาวครีเอเตอร์ของคุณถ่ายคอนเทนต์ลงบน TikTok และลง Reels ในอินสตาแกรมดู! ถ่ายทำแบบเรียล ๆ เหมือนเป็นเบื้องหลังงานแต่ง เพื่อให้งานแต่งของคุณกลายเป็นคอนเทนต์ไวรัลไปบนโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง นอกจากจะเป็นที่จดจำของคุณแล้ว ยังเป็นที่จดจำสำหรับคนอื่น ๆ ด้วย
3.งานแต่งแบบเล็ก ๆ ที่เชิญเฉพาะคนใกล้ชิด (Intimate and Micro Weddings)
การระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติแบบเดิม ๆ ของทุก ๆ อย่างไปแล้ว งานแต่งก็เช่นกัน คู่รักหลาย ๆ คู่ไม่ได้รู้สึกถึงความจำเป็นของการจัดงานแต่งแบบใหญ่โต แขกเหรื่อมากมายหลักร้อยคนอีกต่อไป เริ่มเกิดเทรนด์การแต่งงานแบบเล็ก ๆ ที่เชิญเฉพาะคนใกล้ชิดมางานเท่านั้น งานแต่งงานแบบนี้จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทำให้คู่รักมีโอกาสที่ในการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวให้กับคนใกล้ชิดที่สุด ดูแลแขกทุกคนในงานได้อย่างทั่วถึง รวมไปถึงจะช่วยประหยัดงบค่าแต่งงาน ทำให้เหลือเงินมากขึ้นที่จะนำไปสร้างอนาคตร่วมกับคู่ของคุณอีกด้วย
4.งานแต่งแบบเฉพาะตัว (Personalised Details)
เพื่อประสบการณ์ไม่เหมือนใครที่จะทำให้งานแต่งงานเป็นที่น่าจดจำ และในธีมงานแต่ง ปี 2024 คู่บ่าวสาวสามารถ personalize ดีเทลต่าง ๆ ที่เป็นความชอบหรือสไตล์เฉพาะตัว แทรกลงไปในงานแต่งของตัวเอง เพื่อแสดงความชอบและตัวตนของคู่รักอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผังที่นั่งสุดครีเอท หรือของตกแต่งที่สะท้อนถึงสไตล์ของคู่บ่าวสาว การทำพรีเซนเทชั่นงานแต่งที่ผสมเรื่องราวสนุก ซึ้ง ฮา ตามบุคลิกของคู่บ่าวสาว หรือแม้กระทั่งกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานที่คู่บ่าวสาวสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้เอง ประสบการณ์พิเศษเหล่านี้ช่วยให้งานแต่งงานของแต่ละคู่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครอย่างแท้จริง
5.งานแต่งที่วางแผนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Savvy Nuptials)
เครื่องมือวางแผนงานแต่งสมัยใหม่เป็นธีมงานแต่ง ปี 2024 ที่เริ่มจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน คู่แต่งงานหันไปใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อลดความซับซ้อนและปรับปรุงกระบวนการวางแผนงานแต่งงาน ตั้งแต่การทำการ์ดเชิญเป็นไฟล์ที่สามารถเปิดบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ ไปจนถึงแหล่งข้อมูลการวางแผนงานแต่งงานออนไลน์ คู่บ่าวสาวสามารถจัดการรายชื่อแขก ติดตามงบประมาณงานแต่ง ไปจนถึงการจัดที่นั่ง วิธีนี้จะทำให้การวางแผนงานแต่งง่ายขึ้น ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและทำให้แขกมีส่วนร่วมในงานได้มากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี คู่รักอาจมั่นใจได้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนในวันงาน และทำให้งานแต่งงานมีประสิทธิภาพและน่าจดจำยิ่งขึ้น
สำหรับธีมสีงานแต่ง ส่วนใหญ่จะมีสีหลัก เพื่อเป็นตัวควบคุมบรรยากาศของงาน อารมณ์ของแขกได้ และมีโทนสีรองมาผสมผสานกับสีหลักเพื่อเพิ่มสีสันและเน้นสีให้เด่นขึ้น อาจเลือกเป็นคู่สี 2 สี เช่น ขาว-ชมพู, ขาว-แดง, ขาว-เขียว หรืออาจใช้โทนสีไม่เกิน 3-4 เฉดสี เช่น พาสเทล, โรสโกลด์ สำหรับบ่าวสาวที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกธีมงานแต่งเป็นสีไหน แบบใด เรามี 3 วิธีการเลือกธีมงานแต่งที่จะทำให้คุณเลือกได้ง่ายขึ้น
วิธีที่ 1 : เลือกธีมงานแต่งตามโทนสี และบรรยากาศของสถานที่ที่คุณเลือกจัดงานแต่งงาน
ยกตัวอย่างเช่น บ่าวสาวเลือกจัดงานแต่งงานที่ห้อง Sapphire 113-120 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะเห็นว่าตัวห้องจัดงานตกแต่งโทนสีธรรมชาติ โดยผสมผสานระหว่างสีครีม เทา น้ำตาล ให้บรรยากาศอบอุ่น อีกทั้งยังมีโคมไฟแชนเดอเลียร์สีขาวทองระยิบระยับ ดังนั้นธีมสีที่เหมาะกับห้อง Sapphire 113-120 คือตกแต่งสถานที่จัดงานแต่งงานธีมสีเอิร์ธโทน หรือ ธีมสีขาวเขียว สไตล์ธรรมชาติ เพื่อให้บรรยากาศภายในงาน ดูอบอุ่นและดูโรแมนติกมากขึ้น
วิธีที่ 2 : เลือกสีที่บ่าวสาวชื่นชอบ และสามารถตกแต่งให้เข้ากับสถานที่ได้
ยกตัวอย่างเช่น เจ้าสาวชอบสีน้ำเงิน และเลือกจัดงานแต่งงานที่ห้อง Sapphire 113-120 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าหากจัดงานเป็นธีมสีน้ำเงินก็ยังสามารถตกแต่งให้เข้ากับห้อง Sapphire 113-120ได้อยู่ เนื่องจากห้องจัดงานเป็นโทนสีครีม เทา น้ำตาล
หากบ่าวสาวคู่ไหนเริ่มสงสัยและตัดสินใจเรื่องสีไม่ได้ ลองเริ่มต้นจากสีขาวมาไว้ก่อน เพราะมันจะช่วยให้สีอื่นๆ ที่คุณอยากเลือกดูละมุนนุ่มนวลมากขึ้น ผสมลงไปในสีอะไรก็สวยหวานพาสเทล แถมยังเข้ากันกับทุกสถานที่
วิธีที่ 3 : เลือกสีตามเทรนด์ แต่ต้องเป็นสีที่คู่บ่าวสาวชอบเช่นกัน
โดยธีมงานแต่งที่ได้รับความนิยมตลอดกาลคือ การตกแต่งโดยใช้สีหลักเป็นสีส้ม สีรองเป็นสีแดงส้ม สีขาว สีน้ำตาลอ่อน ชุดสีที่ได้จะเป็นโทนอบอุ่น
หากคุณไม่มั่นใจในการเลือกสีของคุณเอง ปกติแล้วสีที่เหมาะกับงานแต่งงาน และสามารถตกแต่งได้ง่าย มีอยู่ด้วยกัน 3 สีหลักๆ คือ สีครีม สีชมพู และสีเทา ซึ้งเป็นสีที่นิยมใช้กัน และก็ทำให้งานออกมา ดูเรียบร้อยและเป็นทางการอีกด้วย
หวังว่าข้อมูลการเลือกธีมงานแต่งจะเป็นประโยชน์ และช่วยให้บ่าวสาวตัดสินใจเลือกธีมงานแต่งกันได้ง่ายขึ้น หากบ่าวสาวท่านใด กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานที่มีห้องจัดงานแต่งงานให้เลือกหลากหลายแบบ พร้อมพนักงานที่จะคอยแนะนำให้คำปรึกษาตลอดช่วงการจัดงานแต่งงาน ไม่เฉพาะในเรื่องสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงดีเทลต่างๆ ของงาน ตามที่ประสบการณ์ของทีมงานจะจัดหาให้ได้ โดยไม่ต้องใช้ออแกไนเซอร์ ติดต่อสอบถามที่ Impact Wedding ได้เลย ที่ 02 833 5252 หรือ Facebook Page: Impact Wedding