ไม่ต้องใช้บริการเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ ก็จัดงานแต่งงานสุดปังได้แบบไม่เหนื่อย งบไม่บานปลาย
จะมีสถานที่จัดงานแต่งงานสักกี่แห่ง ที่สามารถจัดการทุกเรื่องให้คุณได้ เสมือนมีเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ติดตามจนจบงาน และที่สำคัญคือช่วยคุณควบคุมงบประมาณได้
เพราะการจะมีงานแต่งงานดีๆ สักครั้งหนึ่งในชีวิต อาจจะต้องใช้ความทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และใช้เงินจำนวนไม่น้อย เป็นตัวขับเคลื่อนให้งานสำคัญเพียงครั้งเดียวในชีวิตออกมาดูดีที่สุด ยิ่งเกินความคาดหวังได้ยิ่งน่าประทับใจ แต่ทั้ง 3 ปัจจัยสำคัญนี้อาจจะต้องแลกมาด้วยความเครียด ความกังวล และความเหน็ดเหนื่อยของบ่าว-สาวในการตระเตรียมงาน โดยเฉพาะบ่าว-สาวที่ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานแต่งงานมากนัก เช่น ไม่ค่อยได้ไปร่วมงานแต่งงาน ไม่มีผู้ใหญ่ หรือคนให้คำปรึกษาในการทำพิธีหมั้นหมาย และพิธีมงคลสมรส ยิ่งจะทำให้บ่าว-สาวมีความกังวลมากเป็นพิเศษ และสิ่งที่จะสามารถช่วยแบ่งเบาความเครียดของบ่าว-สาวได้ นั่นคือเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์
หน้าที่ของเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ มีหลากหลายรูปแบบ หลักๆ คือการบริหารจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับบ่าว-สาว เวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ที่มีคุณภาพ ควรมีหลักในการทำงานดังนี้
- พูดคุยในรายละเอียดของงานกับบ่าว-สาว เนรมิตรูปแบบงาน คอนเซปต์ พิธีต่างๆ ให้ออกมาเป็นภาพ ตามที่บ่าว-สาวต้องการในงบประมาณที่กำหนดได้
- ให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เพราะบ่าว-สาวทุกคน แต่งงานเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ย่อมต้องการงานแต่งงานที่ดีที่สุด เวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ที่ดี จะต้องให้คำแนะนำได้ตรงจุด และตรงกับความต้องการ ไม่เห็นแก่ผลกำไรจนเกินพอดี
- บริหารจัดการการเตรียมงานแทนบ่าว-สาว อาทิ กำหนดการในพิธี ประสานงานกับทางสถานที่เรื่องอาหาร เครื่องดื่ม และการตกแต่งสถานที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่าว-สาวและครอบครัวให้ความสำคัญมากที่สุด
- ในหนึ่งปี จะมีฤกษ์ดี และตรงกับวันหยุดเพียงไม่กี่วันเท่านั้น นั่นหมายถึงเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์จะมีงานล้นมือในช่วงนั้นๆเช่นกัน เวดดิ้ง ออกแกไนเซอร์ที่ดีจึงควรมีทีมงานที่พร้อมบริการทั้งปริมาณคนทำงาน และคุณภาพความเอาใจใส่ให้กับบ่าว-สาวทุกคู่เท่าๆกัน
- เลือกใช้อุปกรณ์ตกแต่งสถานที่ และอุปกรณ์ในพิธีที่มีคุณภาพ สวยงาม และตรงปกกับที่บ่าว-สาวเลือกจากแคตตาล็อก หรือแนะนำซัพพลายเออร์ที่ดีให้กับบ่าว-สาว ในกรณีที่ไม่สามารถซัพพอร์ตได้
- การที่บ่าว-สาว เลือกใช้บริการเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ เพราะต้องการประหยัดเวลา หรือมีธุระการงานที่ต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้น การตรงต่อเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ และต้องทำงานแบบ โปรแอคทีฟ คือให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือโดยที่บ่าว-สาว ไม่ต้องทวงถาม
- หากใช้บริการเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์แบบครบวงจร ควรใช้ทีมที่มีชื่อเสียงในทางที่ดี มีประสบการณ์ และมีผลงานที่จับต้องได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดงาน
- มีทีมงานรันคิวที่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะในพิธี บ่าว-สาวจะไม่สามารถย้อนเวลาที่ผิดพลาด เพื่อกลับไปแก้ไขได้ และทุกโมเม้นท์จะถูกบันทึกไว้เป็นความทรงจำตลอดชีวิต ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่พิธี การรับรองแขก ไปจนถึงพิธีการบนเวที
- ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างบ่าว-สาว อาทิ มีความแม่นยำในการระบุประธานในพิธี แขกผู้ใหญ่ และแขกคนสำคัญที่บ่าว-สาวต้องการให้ดูแลเป็นพิเศษ
- จัดทำบัญชีได้ครบถ้วน และอัพเดทให้บ่าว-สาวรับรู้อยู่เสมอ บางสิ่งบางอย่างที่เกินงบประมาณ จะต้องแจ้งบ่าว-สาวก่อนตัดสินใจเลือก หรือทำอะไรโดยพละการ
เหล่านี้ ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ควรมอบให้กับคู่บ่าว-สาว และช่วยให้การจัดงานแต่งงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่ในขณะเดียวกัน บ่าว-สาวที่ไม่สามารถใช้บริการเวดดิ้ง ออกแกไนเซอร์ได้ด้วยสาเหตุหลักๆ คือเรื่องงบประมาณ หรือบางคู่ที่เจอปัญหากับการเลือกใช้เวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ จะทำอย่างไรให้งานแต่งงานของทั้งคู่ สมบูรณ์แบบได้ไม่ต่างกัน?
อิมแพ็ค เวดดิ้ง คือสถานที่จัดงานแต่งงานครบวงจร ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความพร้อมของสถานที่ โดยเฉพาะทีมงานประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่ดูแลเรื่องการจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะ พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ และบริการให้กับคู่บ่าว-สาวไม่ต่างกับการจ้างเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ และที่สำคัญ คือไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็กเกจที่คู่บ่าว-สาวเลือก
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.facebook.com/IMPACTWedding
ติดต่อเรา : คลิก