ขั้นตอนการทาบทาม หรือ วิธีการสู่ขอฝ่ายหญิง
ในปัจจุบันเมื่อคู่รักทั้งสองคน ตกลงและเริ่มมองเรื่องของการแต่งงานกันแล้ว การทาบทามสู่ขอ ก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ เนื่องจากการทาบทามสู่ขอเป็นการแสดงออกถึงความเคารพผู้ใหญ่ เป็นการแสดงออกถึงการยกย่องให้เกียรติฝ่ายหญิงและครอบครัว ดังนั้นว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวมือใหม่อาจจะเกินคำถามมากมายว่าควรคุยเรื่องแต่งงานกับคุณพ่อคุณแม่อย่างไรดี? หรือ ควรทำอะไรต่อไปดี วันนี้ทางอิมแพ็ค เวดดิ้งจะมาแชร์ทริคเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับไปให้ฝ่ายชายไปทาบทาม สู่ขอกัน
สำหรับคู่รักที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่เคร่งครัดเรื่องประเพณีมากหนัก ส่วนมากจะเริ่มต้นจาก
- ทั้งสองฝ่ายอาจจะเกริ่นนำ พูดคุยเรื่องงานแต่งงานแบบไม่เป็นทางการกับทางบ้านของแต่ละฝ่าย อาจจะพูดคุยล่วงหน้าก่อนแต่งประมาณ 1 ปี โดยการแอบกระซิบบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า แฟนจะขอเข้ามาพูดคุยเรื่องการแต่งงาน อาจจะเป็นการพูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมองการใช้ชีวิต ความคิดเห็นเรื่องงานแต่ง หรือปรึกษาหารือกันเรื่องการเตรียมตัวแต่งงาน
- พบปะพูดคุยระหว่างทั้งสองครอบครัว โดยส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายจะเดินทางมาที่บ้านของฝ่ายหญิง เพื่อพูดคุยกันในเรื่องของงานแต่งงาน สถานที่จัดงาน สินสอด ฤกษ์แต่งงานและอื่นๆ บางท่านอาจจะนัดเจอกันที่โรงแรม หรือ ห้องอาหารส่วนตัว เพื่อพูดคุยเรื่องของงานแต่ง
สำหรับครอบครัวที่เคร่งครัดเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนมากจะเริ่มต้นจาก
- ขั้นตอนการทาบทาม
เบื้องต้นผู้ใหญ่ฝ่ายชายหรือเถ้าแก่ที่นัดหาไว้จะเดินทางไปพบผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง เพื่อพูดคุยและหารือเกี่ยวกับความรักของทั้งคู่เป็นการส่วนตัวก่อน เพื่อดูท่าทีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงว่าจะยอมยกลูกสาวให้หรือไม่ คำพูดที่ใช้ทาบทามเน้นพูดถึงความดี ความมุ่งมั่น ความมั่นคง และความรักที่ฝ่ายชายมีให้ฝ่ายหญิง และที่สำคัญเป็นคำพูดในทำนองว่าสามารดูแลและเลี้ยงดูลูกสาวของเขาให้มีความสุขได้ โดยมีคำพูดและประเด็นคร่าวๆ ว่า
“ ปีนี้ … (ฝ่ายชาย) ก็อายุ … ปีแล้ว หน้าที่การงานดี และมั่นคง ที่ผ่านมาเห็นว่า รักและชอบพอกับ …(ฝ่ายหญิง) อยู่นาน เห็นว่าทั้งคู่ดูใจศึกษาซึ่งกันและกัน และรักกันมานานพอสมควร ในฐานะผู้ใหญ่เห็นว่า สมควรแก่เวลา จึงอยากมาทาบทามสู่ขอให้ครอบครัวของทั้งสองเป็นทองแผ่นเดียวกัน ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามหรือเปล่า ”
ในสมัยก่อนแม้ว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะขอวันเดือนปีเกิดของฝ่ายชาย เพื่อนำไปให้โหรหรือพระตรวจดูดวงชะตาเสียก่อน ซึ่งนับเป็นอุบายที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะสมัยก่อนการทาบทามสู่ขอไม่มีการบอกล่วงหน้าเหมือนในสมัยนี้ เมื่อมีผู้ใหญ่มาทาบทามขอลูกสาว ก็มักจะรอถามลูกตัวเองก่อนว่าชอบหรือพอใจในตัวฝ่ายชายหรือไม่ ถ้าไม่ก็สามารถปฎิเสธได้ โดยอ้างว่าชะตาของทั้งคู่ไม่ต้องกัน ถ้าแต่งงานกันก็จะเกินอันตรายต่างๆ นาๆ
แต่ในปัจจุบันถ้าทั้งสองชอบพอกันและผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงรับรู้ ส่วนใหญ่จะเข้าใจ ไม่ขัดข้องและยินดีให้การแต่งงาน จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็จะพูดจาตกลงเกี่ยวกับสินสอดทองหมั้นและกำหนดวันสู่ขอต่อไป
- ขั้นตอนการสู่ขอ
ขั้นตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายชายไม่ต้องไปเอง แต่ให้ผู้ใหญ่ที่ฝ่ายชายเคารพนับถือเดินทางไปหาผู้หญิงที่บ้านอีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อตกลง รวมถึงกำหนดสินสอดทองหมั้น ตลอดจนแจ้งเรื่องของการสร้างเรือนหอ การกำหนดขันหมาก และกำหนดวันแต่งงานให้พร้อม
สิ่งแรกที่เถ้าแก่ต้องเจรจาคือเรื่อง "สินสอด" หรือเรียกอีกอย่างว่าค่าน้ำนม เพื่อให้เกียรติแก่พ่อแม่ฝ่ายหญิง ในอดีตมักจะเรียกสินสอดประมาณสามสิบ สี่สิบบาท พอเป็นพิธี เพราะถ้าเกินกว่านั้น มักถูกนินทาว่าขายลูกสาว และมอบคืนให้ทั้งคู่หลังแต่งงาน เพื่อเป็นเงินทุนในการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ต่อไป
ส่วน "ทองหมั้น" คือสิ่งของที่ฝ่ายชายนำไปมอบให้ฝ่ายหญิงและมักเป็นเครื่องทอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ อย่างสร้อยคอ ต่างหู กำไล และ ที่สำคัญก็คือแหวนหมั้น ปัจจุบันนิยมมอบเป็นแหวนเพชรมากกว่าทอง ซึ่งของหมั้นนี้จะกลายเป็นสมบัติฝ่ายหญิงหลังแต่งงาน เมื่อพูดจาตกลงกันเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ก็จะกำหนดฤกษ์ ยามยามดี สำหรับวันหมั้นและประกอบพิธีแต่งงานเป็นขั้นตอนต่อไป
หากใครกำลังจะเตรียมตัวแต่งงาน หรือหาวิธีการสู่ขอฝ่ายหญิงอย่างถูกต้อง อิมแพ็ค เวดดิ้งหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมีแนวทางในการทาบทามสู่ขอได้อย่างราบรื่น และหากใครสนใจเช่าสถานที่จัดงานแต่งงานใกล้กรุงเทพฯ หรือสถานที่จัดงานแต่งย่างปากเกร็ด แจ้งวัฒนะ หรือสนใจจองสถานที่จัดงานแต่งของคุณอิมแพ็ค เวดดิ้ง ติดต่อเราเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดเข้ามารับชมสถานที่จัดงานแต่งงาน “ คลิกที่นี่ ”