พิธีแต่งงานแบบไทย
พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และประสาทพร
พิธีการอันศักดิ์สิทธิ์อย่าง "พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และประสาทพร" หรือที่เรียกขานกันติดปากว่า "พิธีรดน้ำสังข์" บ้าง และ "พิธีหลั่งน้ำสังข์" บ้าง เป็นอีกขั้นตอนพิธีสำคัญในการแต่งงานแบบไทย ที่มีความงดงามที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างไทยแท้ ๆ ที่ใครต่อใครหลากหลายเชื้อชาติต่างประทับใจ
พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร จะทำหลังจากพิธีขันหมากเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเช้า ใช้เวลาประกอบพิธีประมาณ 2 ชั่วโมง ขั้นตอนแรกจะเริ่มจากพิธีสงฆ์ เวลาที่ดีคือ 10 โมงครึ่ง เพื่อให้ทันพระฉันท์เพลตอน 11 โมง การนิมนต์พระจะนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป เพราะถือว่าเป็นเลขมงคลตามความเชื่อของคนไทย
สิ่งที่ต้องเตรียม
• โต๊ะสำหรับวางหมอนรองมือ พร้อมก้าอี้สำหรับให้บ่าวสาวนั่งรับน้ำสังข์
• โต๊ะขนาดเตี้ยกว่าวางด้านหน้าสำหรับวางพานรองน้ำสังข์
• มงคลแฝด กะความยาวระหว่างมงคลประมาณ 2 ศอก
• คนส่งและรับสังข์ 2 คน
• เพื่อนสนิทของบ่าวสาว สองคู่
• กระดาษเช็ดหน้า มอบให้เพื่อนบ่าวสาว ถือไว้คนละผืน
• ของชำร่วย
• พานสำหรับวางมงคล
พิธีการ
• จัดโต๊ะ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ให้เจ้าบ่าวนั่งทางด้านขวาของเจ้าสาว
• พระสงฆ์ผู้เป็นประธานเจิมหน้าผากให้เจ้าบ่าว 3 จุด จากนั้นจับมือฝ่ายชายเจิม 3 จุดให้เจ้าสาว สวมมงคลแฝดให้บ่าว-สาว มีเพื่อนบ่าว-สาวยืนเป็นกำลังใจด้านหลัง โดยหันหน้าไปทางทิศเดียวกัน
• การรดน้ำสังข์ ต้องเริ่มจากขวาไปซ้าย เพราะฉะนั้นจะเริ่มรดน้ำสังข์ให้เจ้าบ่าวก่อนเสมอ
• มีคนคอยตักน้ำพระพุทธมนต์เติมในสังข์ส่งให้คุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่ผลัดกันรดน้ำสังข์ ขณะที่จรดปากสังข์ถึงมือลูก จะให้พรหรือฝากฝังลูกของตนให้อีกฝ่ายช่วยดูแล
• เมื่อรดน้ำเสร็จ ส่งสังข์คืนให้ผู้ยืนรอรับ พร้อมรับของชำร่วยเล็กๆน้อยๆ เวียนไปอย่างนี้จนครบทุกคน
*เด็กๆ หรือผู้มีอายุน้อยกว่าคู่บ่าว-สาวไม่ควรรดน้ำสังข์ เพราะผู้ที่ให้พร ควรเป็นผู้อาวุโสกว่าบ่าว-สาวเท่านั้น
เมื่อจรดน้ำสังข์เสร็จ ขั้นตอนต่อไปเป็นการปลดมงคลออกจากศรีษะของบ่าว-สาว ให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเป็นผู้ปลด โดยยกมงคลขึ้นพร้อมกันแล้ววางบนพานที่เตรียมไว้ จากนั้นจับมือคู่บ่าว-สาว เป็นสัญญาณให้ทั้งคู่ลุกขึ้น
*เคล็ดลับตั้งแต่สมัยโบราณคือ ถ้าฝ่ายหญิงลุกก่อนจะได้เป็นใหญ่ในบ้าน
หมายเหตุ : ด้ายมงคลถือว่าเป็นของสูง และเป็นสิริมงคล ต้องเก็บไว้ถาวรในที่สูง เช่นบนหิ้งพระ หากจะนำไปใช้ในการต่อไป ให้ใช้ในการที่เป็นมงคลเท่านั้น
ความหมายของน้ำสังข์
ในพิธีการแต่งงานแบบประเพณีไทย จะมีขั้นตอนหนึ่งที่เรียกว่า พิธีหลั่งน้ำ พระพุทธมนต์ หรือ พิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งแขกผู้หลักผู้ใหญ่ และญาติผู้ใหญ่ที่มา ร่วมงาน จะนำน้ำที่บรรจุในสังข์ (หอยสังข์) รถไปที่มือของคู่บ่าวสาว พร้อมทั้ง อวยพรให้คู่บ่าวสาว ให้ครองรักครองเรือนกันอย่างมีความสุขและยืนนาน ซึ่ง การใช้น้ำที่บรรจุในสังข์ หรือที่เรียกว่าน้ำสังข์มีความหมายหลักๆ ดังนี้
- หอยสังข์ : การใช้หอยสังข์บรรจุ านั้น เป็นความเชื่อ ที่ได้มาจากประเพณี ของศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเชื่อว่าหอยสังข์เป็นสิ่งที่เป็นสิริมงคล เนื่องจากมีสีขาว นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน 4 อย่างที่พระนารายณ์ได้ถือไว้ในกรของท่าน นั่นก็คือ คฑา จักร สังข์ และดอกบัว จึงถือเป็นสิ่งที่อุดมมงคลสูง
- น้ำ: น้ำเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นปึกแผ่น จึงมาเป็นเป็นสัญลักษณ์ในการ อวยพรคู่บ่าวสาวให้ครองรัก ครองเรือนกันยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้น ท่าน ว.วชิรเมธี ได้นำคุณลักษณะของน้ำมาให้ความหมายที่เกียวข้องกับการแต่งงาน การครองคู่ และนำมาปรับเป็นคุณธรรมคู่รักไว้ 5 ประการคือ
- เย็น หมายความว่า คู่สมรสต้องเป็นคนใจเย็น การมาอยู่ร่วมกันโดยทั้งคู่มาจากที่ต่างกัน การเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน มีภูมิหลังที่ต่างกัน เมื่อมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน หากไม่ “ใจเย็น” จะอยู่ด้วยกันยาก
- ไม่มีตัวตน หมายความว่า น้ำไม่เคยมีตัวตนที่แท้จริง เพียงแต่เกิดจากหยดน้ำหลายๆหยดมาหลอมรวมกัน กลายเป็น สายน้ำที่ไหลมารวมกัน เป็น ห้วย ลำธาร แม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร ในชีวิตคู่ก็เช่นกัน ถ้าหากเราเรียนรู้ความไม่มีตัวตน (ไม่มี ego หรือไม่มีอัตตา) ได้อย่างน้ำ ความโกรธ ความเอาแต่ใจก็เกิดขึ้นกับเราได้ยาก เป็นผลให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือทะเลาะเบาะแว้งได้ยากไปด้วย ซึ่งความไม่มีตัวตนนั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีตนตน ไม่มีคนอยู่ในนั้น เรายังคนเป็นคนอยู่ แต่ในใจอย่าไปยึดติด หรือยึดถือว่า "ตัวฉันสำคัญที่สุด"
- ยืดหยุ่น หมายความว่า น้ำสามารถอยู่ได้ในทุกรูปแบบ และปรับตัวไปตามภาชนะที่มันอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เสียคุณสมบัติความเป็นน้ำไปเลย ก็เปรียบได้กับชีวิตคู่ถ้าพร้อมที่จะมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต พร้อมที่จะเรียนรู้ และปรับตัว ชีวิตคู่จะอยู่ได้อย่างมั่นคง
- ให้ชีวิตแก่สรรพสัตว์ หมายความว่า น้ำให้ความชุ่มชื้นกับโลกเรา ทั้งคน สัตว์ และพืช ที่ไหนมีน้ำก็มีชีวิต ถ้าจะมาปรับกับชีวิตคู่ คือ ถ้าคู่รักกัน เป็นผู้ให้แก่กันและกัน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ใดมีการให้ที่นั่นก็จะมีแต่ความสุข มีความรักเกิดขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการให้ไม่ได้เป็นการเสีย แต่เป็นการได้ คือได้ทั้งความสุข ความสบายใจ ซึ่งคนที่รู้สึกถึงความสุขนั้นก็คือคนที่ให้นั่นเอง
- ทำคุณแล้วไหลลงสู่ที่ต่ำ หมายความว่า น้ำเมื่อได้ทำการชำระล้างสิ่งใดไปแล้วก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้เรียกร้องสิ่งตอบแทนอะไรเลย ถ้าหากคนรักกัน ทำดีต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่ยึดติดกับความดีนั้น ไม่เรียกร้องหรือหวังผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ ความดีนั้นก็จะประทับอยู่ในใจของทั้งสองไปนานแสนนาน แต่ถ้าหากทำดีต่อกันแล้วหวังผลตอบแทน คอยทวงบุญคุณตลอดจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึก “เสียศักดิ์ศรี” หรือมีปมด้วย และถ้าหากปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกเช่นนั้น ชีวิตคู่จะไม่ยืดยาวอย่างแน่นอน
หลังจากนี้ไปหากท่านใดที่ได้มีโอกาสได้ไปในพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ หรือรดน้ำสังข์ให้คู่บ่าวสาว รวมทั้งคู่บ่าวสาวเอง ก็คงได้เข้าใจถึงการความหมายของน้ำสังข์ได้ดีขึ้น และเห็นความสำคัญของพิธีการนี้ด้วยนะคะ
หวังว่าขั้นตอนของพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และประสาทพรจะเป็นประโยชน์ และช่วยให้บ่าวสาวเข้าใจในพิธีแต่งงานแบบไทยได้ง่ายขึ้น หากบ่าวสาวท่านใด กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานที่มีห้องจัดงานแต่งงานให้เลือกหลากหลายแบบ พร้อมพนักงานที่จะคอยแนะนำให้คำปรึกษาตลอดช่วงการจัดงานแต่งงาน ไม่เฉพาะในเรื่องสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงดีเทลต่างๆ ของงาน ตามที่ประสบการณ์ของทีมงานจะจัดหาให้ได้ โดยไม่ต้องใช้ออแกไนเซอร์ ติดต่อสอบถามที่ Impact Wedding ได้เลย ที่ 02 833 5252 หรือ Facebook Page: Impact Wedding