เผยสูตรลับจัดงานแต่งด้วยตัวเองแบบไม่เหนื่อย ไม่ง้อออแกไนเซอร์
หลายๆ คู่รัก มักจะต้องเผชิญกับการจัดงานแต่งงานที่มีรายละเอียดเยอะจนน่าปวดหัว ไหนจะต้องเจียดเวลาทำงาน และเวลาส่วนตัวมาประกอบร่าง สร้างสรรค์งานแต่งงานที่ต้องโดนใจตัวเองและคู่รัก ทั้งยังต้องถูกใจครอบครัว และแขกคนสำคัญนับร้อยคนในงาน ยิ่งเป็นงานอีเว้นท์สำคัญเพียงครั้งเดียวในชีวิต ยิ่งมีความกดดันอยากจะทำออกมาให้ดีที่สุด นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ว่าที่บ่าว-สาวมักจะพิจารณาที่จะเลือกใช้เวดดิ้ง ออแกไนเซอร์มาช่วยจัดงานแต่ง และแก้ปัญหาทั้งหลายให้แทน ซึ่งนับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดมากๆ วิธีหนึ่ง เพราะเมื่อมีผู้ช่วยมาคอยช่วยจัดงานทุกอย่างให้ลงตัวแล้ว คู่รักจึงมีเวลามากพอที่จะไปโฟกัสสิ่งอื่นๆ แทน อาทิ การนัดเจอเพื่อนๆ ญาติๆ เพื่อแจกการ์ดได้อย่างทั่วถึง หรือการดูแลตัวเองให้พร้อมสำหรับวันสำคัญ เป็นต้น
แต่ก็ไม่ใช่คู่รักทุกคู่ ที่สามารถซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายในการจ้างเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ได้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์นั้นอาจสูงพอๆ กับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในงานรวมกันเลยก็เป็นได้ ด้วยประสบการณ์ของชาวอิมแพ็ค เวดดิ้ง จึงมีเคล็ดลับจัดงานแต่งให้กับว่าที่บ่าว-สาว ที่อยากจัดงานแต่งด้วยตัวเองแบบไม่เหนื่อย ไม่ต้องสิ้นเปลืองกับเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์ และที่สำคัญ ยังได้จัดงานแต่งที่ตรงใจสุดๆ มาฝากกัน หากคู่รักทำตามทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ รับรองว่าคู่รักจะผ่านช่วยจัดงานแต่งด้วยตัวเองไปได้อย่างชื่นบาน
ขั้นที่ 1 ประเมินงานแต่งของตัวเอง
ก่อนจะขยับ หรือเริ่มทำอะไรก็ตาม ให้จับคู่รักของคุณมานั่งคุยกัน และประเมินความต้องการของคุณทั้งสองในการจัดงานแต่งกันก่อน ซึ่งวิธีการประเมินก็ไม่ยาก เพียงแค่หาข้อสรุปร่วมกันตามหัวข้อต่อไปนี้ให้ได้ ก่อนจะเริ่มวางแผนจัดงานแต่งต่อไป
●ต้องการเชิญใครมางานแต่งบ้าง?
●ความต้องการของคู่รัก และครอบครัวของทั้งคู่เป็นอย่างไร?
●การจัดการงบประมาณ แบ่งสัดส่วน และความรับผิดชอบให้ชัดเจน
●ธีมงาน สไตล์ของสถานที่ที่ทั้งคู่ยอมรับร่วมกัน
●ปัจจัยอื่นๆ ที่งานแต่งงานโดยทั่วไปมีกัน จำเป็นสำหรับคู่ของคุณหรือไม่ เช่น พรีเวดดิ้ง, พิธีช่วงเช้า, ปาร์ตี้สละโสด, After Party เป็นต้น
เมื่อคุณสองคนมีข้อตกลงร่วมกันเรียบร้อยแล้วนั้น จะช่วยลดปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกันระหว่างจัดเตรียมงานแต่งได้แทบจะ 100% เลยทีเดียว
ขั้นที่ 2 เข้าใจความคาดหวังคนรอบข้าง
คนรอบข้างในที่นี้ คือทุกคนที่จะมาอยู่ในงานแต่งงานนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ว่าที่บ่าว-สาว จะต้องกำหนดสัดส่วนการให้ความสำคัญของแขกให้ดี เพราะข้อนี้ จะเป็นตัวกำหนดปัจจัยหลายๆ อย่างในงานแต่งงานของคุณ อาทิ ธีมงาน, สถานที่, อาหาร, กิจกรรมในงาน เป็นต้น แต่อย่าลืมแบ่งสัดส่วนนี้ให้กับเจ้าของงาน ซึ่งก็คือบ่าว-สาวเยอะหน่อยนะ เพราะงานแต่งงาน นับว่าแทบจะเป็นงานเดียวในชีวิตที่เป็นงานของคุณสองคนจริงๆ งัดตัวตนออกมาได้เลย
ขั้นที่ 3 งบประมาณคือปัจจัยสำคัญ
เรื่องเงินนั้นสำคัญในทุกเหตุการณ์เสมอ การจัดงานแต่งก็เช่นกัน ตั้งงบประมาณที่คุณสองคนรับได้ก่อนจะขยับไปเตรียมอย่างอื่น เพราะเมื่อคุณมีขอบเขตในการใช้เงินแล้วล่ะก็ ทุกอย่างจะถูกตีกรอบให้ง่ายขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่า ไม่ฟุ้งจนเกินไปนั่นเอง และอย่าลืมทำบัญชีค่าใช้จ่ายสำหรับงานแต่งครั้งนี้ด้วยนะ
ขั้นที่ 4 เลือกสถานที่ที่มีบริการเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์
หลังจากผ่านกระบวนการคิดมาถึง 3 ขั้นตอนแล้ว ก็ได้เวลาลงมือกันจริงๆสักที ก่อนอื่นว่าที่บ่าว-สาว จะต้องหาสถานที่จัดงานแต่งเป็นอันดับแรก เพราะทุกเหตุการณ์สำคัญทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีสถานที่จัดงานแต่ง และสถานที่จัดงานแต่งดีๆ ที่คุณต้องการในวันฤกษ์ดีที่มีคู่รักทั้งประเทศรอจับจองเหมือนกัน ย่อมเป็นแรร์ไอเทมที่คุณต้องรีบจัดการก่อนเลย
และเมื่อคุณตกลงที่จะจัดงานแต่งด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ออแกไนเซอร์ เคล็ดลับคือต้องเลือกสถานที่ที่มีบริการเวดดิ้ง ออแกไนเซอร์รวมอยู่ในแพ็คเกจ ง่ายๆก็คือ คุณจะมีผู้ช่วยในการจัดเตรียมทุกอย่างในสถานที่จัดงานแต่งโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มนั่นเอง เรียกได้ว่าแค่เปลี่ยนชุด หิ้วของชำร่วยไปก็แต่งงานได้เลย ไม่เหนื่อย ไม่สิ้นเปลือง แถมยังได้งานแต่งที่เป็นสไตล์ของคุณเอง
แพ็คเกจแบบนี้ หาได้ที่อิมแพ็ค เวดดิ้ง หนึ่งในบริการจากอิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้ยกเอาทีมงานมากประสบการณ์ในการจัดงานอีเว้นท์ระดับนานาชาติ มายกระดับวงการเวดดิ้งมากว่า 10 ปี จัดงานแต่งให้คู่รักมานับพันคู่ทุกรูปแบบ ทุกขนาด โดยจุดเด่นคือ นอกจากจะให้บริการสถานที่ และอาหารโดยทั่วๆไปแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงบริการพิเศษ นั่นก็คือการเป็นออแกไนเซอร์ให้กับคู่รักด้วยนั่นเอง ถ้าถามว่าบริการนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มาดูกันเลย
●บริการตกแต่งสถานที่ให้คู่รัก ฟรี
●หากคู่รักนำวงดนตรีเข้ามาในงาน หรือจะตกแต่งสถานที่เพิ่มเติม ก็ไม่คิดค่านำเข้าแต่อย่างใด
●เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งในพิธีเช้า และงานเลี้ยงมงคลสมรส ไว้ให้คู่รักอย่างครบครัน
●มีทีมงานให้คำปรึกษา และดูแลคู่รักตลอดงาน ตั้งแต่เข้าชมสถานที่ ไปจนจบงานแต่งงาน ทีมงานอิมแพ็ค เวดดิ้ง จะแยกตัวออกมาดูแลเฉพาะงานแต่งงานของคู่รักเท่านั้น เพราะการจัดงานแต่งมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษ อิมแพ็คจึงไม่ใช้ทีมงานเวดดิ้ง ร่วมกับงานประเภทอื่นๆ ดังนั้น ทีมงานอิมแพ็ค เวดดิ้ง จึงมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรง
●บริการรันคิวงานในพิธี และดูแลคิวให้กับบ่าว-สาว ฟรี
●บริการที่พักในโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค (ระดับ 4 ดาว) 1 คืน พร้อมแพ็คเกจทำสปา ฟรี
●จองที่จอดรถให้กับแขก VIP และที่พิเศษคือ การันตีจองที่จอดรถให้กับแขกในงานได้อีก 25% ของจำนวนแขก
ทั้งหมดนี้ คู่รักจะได้รับบริการในราคาแพ็คเกจเริ่มต้นที่ 99,000 บาทเท่านั้น และยังมีแพ็คเกจเสริมในงานปาร์ตี้สละโสดในราคา 19,900 บาท ที่จะประกอบไปด้วย
●สถานที่จัดงาน เลือกได้ว่าจะจัดในห้องจัดเลี้ยงของอิมแพ็ค หรือจะเป็นในห้องพักของโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค
●Snack พร้อมเครื่องดื่มไม่อั้นตลอด 3 ชั่วโมง
●Welcome Drink ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของคุณ
●ตกแต่งห้องด้วยลูกโป่ง พร้อมกับพร๊อพถ่ายรูปเก๋ๆ
ขั้นที่ 5 เตรียมความพร้อมให้ตัวเอง
เมื่ออิมแพ็ค เวดดิ้งเตรียมให้ทุกอย่างแล้ว หน้าที่ที่เหลือสำหรับคุณสองคนก็คือการเตรียมตัวเป็นคู่บ่าว-สาวที่ดูดีมีออร่า และพร้อมที่จะมีช่วงเวลาแห่งความสุขไปกับแขกคนสำคัญในงานแต่งงานในฝัน ไปแจกการ์ด พบปะญาติผู้ใหญ่และ เพื่อนๆ เข้าสปาหรือคลินิคเสริมความงาม เตรียมเคลียร์งานสำหรับวันสำคัญ เลือกของชำร่วยชิวๆ หรือจะวางแผนทริปฮันนีมูน ก็สามารถทำได้อย่างสบายใจ
หวังว่าแพ็คเกจของอิมแพ็ค เวดดิ้ง จะสามารถช่วยให้ว่าที่บ่าว-สาวทุกคนมีความสุขในการจัดเตรียมงานแต่งงานได้ไม่มากก็น้อย เพราะเราใส่ใจทุกรายละเอียดของคู่บ่าว-สาว ไม่เฉพาะในเรื่องสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงดีเทลต่างๆ ของงาน ตามที่ประสบการณ์ของทีมงานจะจัดหาให้ได้ หากคู่รักท่านใดกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่ใส่ใจในรายละเอียด และมีทีมงานบริการครบวงจร แบบไม่ต้องใช้ออแกไนเซอร์ ติดต่อสอบถามที่ Impact Wedding ได้เลย ที่ 02 833 5252 หรือ Facebook Page: Impact Wedding
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.facebook.com/IMPACTWedding
ติดต่อเรา : คลิก