เลือกธีมแต่งงาน สวยแบบไม่เอ้าท์!
ธีมแต่งงานและโทนสียอดนิยมในปี 2025
ทุก ๆ ปี ธีมแต่งงานมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปเรื่อย ๆ ตามค่านิยมและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ดังนั้นการเลือกธีมแต่งงานที่เหมาะสมกับคู่ของคุณ ไม่เพียงแค่สร้างบรรยากาศภายในงานแต่งงานให้ดูโดดเด่น สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงตัวตนและความชื่นชอบต่างๆของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกด้วย วันนี้อิมแพ็ค เวดดิ้งจะพาคุณไปส่องเทรนด์ธีมแต่งงานและโทนสียอดนิยมในปี 2025 กันค่ะ
ความหมายของธีมแต่งงาน
ธีมแต่งงาน หมายถึง รูปแบบหลักในการจัดงานแต่งงานของคุณ ซึ่งจะช่วยกำหนดองค์ประกอบและสไตล์การจัดงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่การตกแต่งสถานที่ รูปแบบการเสิร์ฟอาหาร ของชำร่วย การออกแบบการ์ดเชิญ ไปจนถึงชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ดังนั้นการมีธีมแต่งงานที่ชัดเจนจึงเป็นเหมือนแผนที่นำทาง ที่ช่วยให้การวางแผนแต่งงานและการจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น ทำให้ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัว แถมยังช่วยบ่งบอกตัวตนและเอกลักษณ์เฉพาะของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
เหตุผลที่ทำไมงานแต่งงานจึงควรมี "ธีมแต่งงาน"
การเลือก "ธีมแต่งงาน" จะช่วยให้บรรยากาศของงานแต่งงานดูสวยงาม เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเจ้าบ่าวเจ้าสาว อีกทั้งยังทำให้แขกที่มางานแต่งงานของคุณประทับใจและจดจำงานของคุณได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นธีมแต่งงานยังช่วยกำหนดแนวทางในการตัดสินใจต่าง ๆได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่จัดงาน ชุดแต่งงาน ของชำร่วย และการตกแต่งสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อภาพรวมของงานแต่งงาน ตัวอย่างเช่น บ่าวสาวต้องการจัดงานแต่งงานแบบรักษ์โลก แนวธรรมชาติ สบายตา ทั้งคู่จะต้องวางธีมแต่งงานให้ดูสบายตา เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีที่เป็นธรรมชาติ ใช้ของชำร่วยแบบรักษ์โลก เปลี่ยนการตัดเค้กเป็นรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น
หากคุณยังไม่มีไอเดียในการเลือกธีมแต่งงาน อิมแพ็ค เวดดิ้งจึงอยากแชร์เคล็ดลับในการเลือกธีมแต่งงานมาฝากกัน 5 ข้อด้วยกัน
1. เลือกธีมแต่งงานที่บ่งบอกสไตล์และความชื่นชอบของบ่าวสาว: เช่น บ่าวสาวชื่นชอบการเก็บสะสม Art toy อย่าง Space Molly คู่รักอาจเลือกธีมแต่งงานเป็นธีมกาแล็กซี่ ดวงดาว มีการนำ Space Molly มาตั้งโชว์ภายในงาน หรือมีการเล่นกิจกรรมแล้วแจกของรางวัลเป็นกล่องสุ่ม ธีมนี้ไม่เพียงแค่แสดงถึงความสนใจและความชอบของคู่บ่าวสาวเท่านั้น แต่ยังสร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นให้กับแขกในงานได้อีกด้วย
2. เลือกธีมแต่งงานตามสถานที่จัดงานหรือฤดูกาล: สถานที่จัดงานและช่วงฤดูกาลที่เลือกจัดงานเป็นสิ่งสำคัญ เช่น บ่าวสาวได้ฤกษ์แต่งงานช่วงหน้าฝน อาจจะต้องเลือกสถานที่จัดงานในร่ม แทนการจัดงานกลางแจ้งเพื่อป้องกันไม่ให้การจัดงานติดขัดได้ กรณีที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นตัวตั้งต้นก่อน จะทำให้การกำหนดธีมแต่งงานได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นคุณชอบบรรยากาศและโทนสีของห้อง Sapphire 115-118 อาจจะกำหนดเป็นธีมงานแต่งในสวน เนื่องจากตัวห้องมีโทนสีเป็นสีน้ำตาล ทอง และมีความเป็นส่วนตัวมาก การเลือกธีมที่เข้ากับสถานที่ช่วยให้การจัดงานเป็นไปอย่างกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
3. เลือกธีมแต่งงานตามโทนสีที่บ่าวสาวชอบ: โทนสีเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกของงาน เช่น เจ้าสาวที่ชอบสีชมพูอ่อน อาจจะเลือกธีมแต่งงานเป็น Blush and Greenery ซึ่งเป็นการตกแต่งโดยใช้สีชมพูอ่อน ผสมเขียวอ่อน แซมด้วยสีทองให้ความรู้สึกอบอุ่น ละมุนตา แต่ก็คงความหรูหรา
4. หาแรงบันดาลใจจากหลาย ๆ ช่องทาง: คุณสามารถหาไอเดียจากเว็บไซต์ Pinterest หรือ Instagram เพื่อดูตัวอย่างรูปแบบการจัดงานและธีมแต่งงานที่คุณชื่นชอบ เพื่อนำมาปรับใช้กับงานของคุณได้ การดูตัวอย่างจากผู้อื่นช่วยให้คุณเห็นภาพและจินตนาการถึงงานของคุณได้ชัดเจนมากขึ้น
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกธีมแต่งงานแบบไหน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแต่งงานจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม และสามารถเลือกธีมที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ดีที่สุด การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญช่วยลดความกังวลและทำให้งานออกมาเป็นไปตามที่คุณวางแผน
นอกจากธีมแต่งงานที่เป็นหัวข้อหลักแล้ว สีของธีมแต่งงานยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้งานแต่งงานของคุณดูดีมีมิติ และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น คุณสามารถเลือกสีธีมแต่งงานจากสีที่คุณทั้งคู่ชื่นชอบ หรือเลือกจากสีที่มีความหมายสอดคล้องกับธีมงาน สีธีมไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียว อาจเลือกสองสีที่เข้ากันหรือใช้เฉดสีต่าง ๆ ที่สอดคล้องกันก็ได้ การกำหนดธีมสีจะช่วยกำหนดทิศทางในการตกแต่งสถานที่ การเลือกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ชุดของพิธีกร และแม้กระทั่งการแนะนำให้แขกที่มาร่วมงานแต่งตัวในโทนสีเดียวกับธีมงาน เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในงานแต่งของคุณ
อีกทั้งสีของธีมแต่งงานที่คุณเลือกนั้นยังมีความหมายที่ซ่อนอยู่ โดยสีแต่ละสีจะให้อารมณ์ ความรู้สึก และบรรยากาศภายในงานที่แตกต่างกัน เช่น สีเงินและสีทองจะให้ความรู้สึกถึงสิ่งที่มีคุณค่า ความเลิศหรูอลังการ ความมีรสนิยม งานก็จะออกมาในสไตล์หรูหรา สีโทนฟ้า-น้ำเงินจะให้ความรู้สึกถึงความรักที่อบอุ่น ซื่อสัตย์ ภักดี และมั่นคง สีครีมและสีชมพูให้ความรู้สึกโรแมนติกและอ่อนโยน ในขณะที่สีส้มและสีเหลืองช่วยสร้างบรรยากาศในงานแต่งงานให้ดูทันสมัย สดใส และร่าเริง
ธีมแต่งงานยอดนิยมในปี 2025
การเลือกธีมแต่งงานที่เหมาะสมกับคุณจะช่วยให้งานแต่งงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น น่าประทับใจ และงานที่ออกมาดูสวยงาม
- ธีมแต่งงานที่ยั่งยืน (Sustainable Weddings)
คู่รักหลาย ๆ คู่เริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การใช้ดอกไม้ปลอมในการตกแต่ง การ์ดเชิญที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล หรือการเชิญและการตอบรับผ่านทางออนไลน์ รวมถึงการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายในงานแต่งงาน
- ธีมแต่งงานขนาดเล็ก ยิ่งเล็ก ยิ่งใกล้ชิด (Intimate Celebrations)
งานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เชิญเพียงครอบครัวและเพื่อนสนิท ส่วนใหญ่จะเน้นพิธีเช้าแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมายและความอบอุ่น คุณควรเลือกจัดงานในสถานที่ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง คู่รักหลายคู่ที่เคยจัดงานแต่งงานแบบนี้กับทางอิมแพ็ค จะเลือกจัดงานที่ห้องแอมเบอร์หรือห้องอาหารเทอราซซ่า ข้อดีของธีมนี้คือบ่าวสาวสามารถดูแลแขกได้ทั่วถึง และยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว
- ธีมแต่งงานที่เน้นความสดใสและฉูดฉาด (Bold and Vibrant Colors)
ธีมงานที่มีสีสันสดใสกำลังกลับมาเป็นที่นิยม คุณจะเห็นการใช้โทนสีอัญมณี ผสมกับสีเมทัลลิค และดอกไม้ที่มีสีสันสดใส เพื่อสื่อถึงความซับซ้อนและความหรูหรามากกว่าการใช้โทนสีพาสเทลแบบดั้งเดิม โทนสีฉูดฉาดจะทำให้งานแต่งงานดูสดใสและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
- ธีมแต่งงานที่ผสมผสานพิธีจากวัฒนธรรมต่าง ๆ (Cultural Fusions)
ธีมแต่งงานนี้เหมาะสำหรับคู่รักที่มาจากต่างวัฒนธรรม ซึ่งสามารถผสมผสานระหว่างค่านิยมและวัฒนธรรมของแต่ละฝ่ายได้อย่างลงตัว ธีมนี้จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำให้กับแขกผู้มาร่วมงาน
- ธีมแต่งงานที่เน้นประสบการณ์ (Experiential Weddings)
งานแต่งงานที่มีการจัดกิจกรรมหรือเกมส์ให้แขกได้ร่วมสนุกและเพลิดเพลินไปกับงาน ไม่ว่าจะเป็นการนำ Photo booth เข้ามาในงาน มีการจับของรางวัล หรือเล่นเกมส์ตอบคำถามชิงรางวัลอย่าง Kahoot เป็นต้น
- ธีมแต่งงานแบบเรียบหรู ดูแพง (Modern Minimalism)
ธีมแต่งงานที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีสไตล์กำลังมาแรง คู่รักเลือกใช้โทนสีที่เป็นกลาง การตกแต่งที่น้อยแต่มาก แต่กลับให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างาม
ธีมสีแต่งงานในปี 2025
การเลือกธีมสีแต่งงานจะช่วยให้บรรยากาศในงานแต่งงานของคุณเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ แถมงานที่ออกมาดูสวยงาม และทันสมัย
-----------------------------------------------------------
1. ธีมแต่งงานที่มีสีสันสดใส (Cheerful Bright Color) ธีมสีสันสดใสเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 2024-2025 เพราะช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวาในวันสำคัญของคุณ
- Tangerine
เหมาะกับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศสดใสและสะดุดตา สีส้มแทนเจอรีนสามารถจับคู่กับสีอื่นๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีส้มกับสีน้ำตาล สีส้มกับสีขาว-เบจ หรือสีส้มกับสีเขียว
- Burgundy and Pink
สำหรับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติกและดราม่า การจับคู่สีเบอร์กันดีเข้มกับสีชมพูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เฉดสีที่เข้มข้นและดูเป็นผู้หญิงเหมาะสำหรับงานแต่งในฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว
- Colorful
สำหรับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศสดใส สนุกสนาน ในแบบของตัวเอง
ถ้าคุณต้องการจัดงานแต่งในธีมสี Colorful แต่ยังไม่รู้จะผสมสีอย่างไร อิมแพ็ค เวดดิ้งอยากให้คุณลองเลือกสีสดใสๆมาสัก 2-3 สี จากนั้นควรเลือกโทนสีกลางๆมาแซม เช่น สีขาว สีชมพูอ่อน หรือสีเขียวใบไม้ เพื่อสร้างความสมดุลของธีม Colorful ที่คุณเลือก และทำให้งานดูโดดเด่นและสวยงามอย่างลงตัว ซึ่งเฉดสีนั้นจะสะท้อนถึงบรรยากาศที่คุณต้องการให้เป็นในงานแต่งงานของคุณ เพราะทุกสีมีความหมายและสร้างอารมณ์ที่แตกต่างกัน ตามตัวอย่างคร่าวๆด้านล่าง
สีชมพู
เฉดสีชมพูให้ความรู้สึกอ่อนหวาน น่ารัก และโรแมนติก ไม่ว่าคุณจะเลือกสีชมพูอ่อนอย่าง Light Pink ที่ให้ความรู้สึกละมุนละไม สี Bright Pink ที่ให้ความสนุกสนาน หรือสี Dusty Pink ที่ให้ความเรียบง่ายและสุภาพ สีชมพูยังเหมาะกับคู่รักที่ชอบความละเอียดอ่อนและความรักที่บริสุทธิ์
สีแดง
สีแดงเป็นสีแห่งความเป็นมงคลและความรักที่เร่าร้อน เหมาะกับคู่รักที่ต้องการสร้างบรรยากาศโรแมนติกและดึงดูดใจ เฉดสีแดงเข้ม Deep Red จะให้ความรู้สึกสง่างามและหรูหรา ในขณะที่สี Bright Red จะสร้างความตื่นเต้นและความกล้าในการแสดงออก หรือสี Brick Red ให้ความรู้สึกอบอุ่น และมั่นคง
สีส้ม
สีส้มเป็นตัวแทนของพลังและความสดใส เหมาะกับคู่รักที่ต้องการให้บรรยากาศงานแต่งดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณสามารถใช้สีส้ม Peach เพื่อสร้างความอบอุ่นและนุ่มนวล หรือสีส้ม Coral เพื่อเพิ่มความหวานและความเท่ในงาน
สีเหลือง
สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดชื่นและความหวัง เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการสร้างบรรยากาศร่าเริงและสบายๆ สีทองจะเพิ่มความหรูหราและความมั่งคั่งให้กับงาน ในขณะที่สีเหลืองอ่อนจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย
สีเขียว
สีเขียวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย เหมาะกับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศที่สงบและเป็นธรรมชาติ เฉดสีเขียวอ่อนให้ความรู้สึกสงบ สีเขียวมรกตให้ความหรูหรา และสีเขียวนกเป็ดน้ำหรือ Teal จะเพิ่มความเย็นและเงียบสงบ
สีฟ้า/สีน้ำเงิน
สีฟ้าและสีน้ำเงินเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เหมาะกับคู่รักที่ต้องการสร้างบรรยากาศปลอดโปร่ง เฉดสีฟ้าอ่อนจะให้ความรู้สึกสงบและเงียบสงบ ในขณะที่สีน้ำเงินเข้มให้ความรู้สึกมั่นคงและน่าเชื่อถือ
สีม่วง
สีม่วงเป็นสีที่มีเสน่ห์และลึกลับ แม้ว่าจะให้ความรู้สึกหดหู่บ้าง แต่การเลือกเฉดสีม่วงที่เหมาะสมสามารถสร้างความโรแมนติกและความหรูหราให้กับงานแต่งของคุณ เฉดสีม่วง Lavender ให้ความรู้สึกเพ้อฝันและโรแมนติก ในขณะที่สีม่วงเข้มให้ความรู้สึกหรูหราและทรงเกียรติ
-----------------------------------------------------------
2. ธีมแต่งงานโทนสีธรรมชาติ (Earthy Neutrals Color) โทนสีธรรมชาติเป็นทางเลือกที่คลาสสิกและไม่มีวันล้าสมัย เฉดสีเบจ สีแชมเปญ และสีน้ำตาลเทาสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับตัวงานและช่วยให้ความงามตามธรรมชาติเปล่งประกาย เฉดสีเหล่านี้ยังเข้ากันได้ดีกับทุกๆธีมแต่งงาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคู่รักทุกคู่
- Terracotta
เป็นสีที่ให้ความอบอุ่นและรู้สึกเป็นธรรมชาติ เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง
- Green Olive and Beige
สีเขียวมะกอกกับสีเบจเป็นการผสมผสานที่สร้างความรู้สึกสงบและธรรมชาติ เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการบรรยากาศเรียบง่ายและสงบ
- Champagne and Neutral
สีแชมเปญและโทนสีกลางๆ เป็นทางเลือกที่หรูหราและคลาสสิก เหมาะกับคู่รักที่ต้องการงานแต่งที่ดูเรียบหรูและมีรสนิยม
-----------------------------------------------------------
3. ธีมแต่งงานโทนสี (Vibrant Hues) สำหรับคู่รักที่ต้องการจัดธีมแต่งงานที่โดดเด่นและหรูหรา การเลือกใช้เฉดสีเข้มอย่างสีเขียวมรกต สีน้ำเงินเข้ม สีแดงเข้ม และม่วงอะเมทิสต์จะช่วยให้งานดูสวยงามและมีเสน่ห์ เฉดสีเหล่านี้เข้ากันได้ดีกับสีเมทัลลิค ทำให้งานดูหรูหราและเพิ่มความโดดเด่นให้กับทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
- Emerald
สีเขียวมรกตเป็นสีที่ให้ความรู้สึกหรูหราและมีคุณค่า เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการความสง่างามและหรูหรา
- Blue Sapphire
สีน้ำเงินเข้มให้ความรู้สึกมั่นคงและน่าเชื่อถือ เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการบรรยากาศที่มั่นคงและเป็นทางการ
- Ruby
สีแดงเข้มเป็นสีที่ดึงดูดความสนใจและให้ความรู้สึกหรูหรา เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการสร้างบรรยากาศโรแมนติกและแสดงถึงความรักที่ดื่มด่ำ
- Amethyst
สีม่วงอะเมทิสต์ให้ความรู้สึกน่าค้นหาและมีเสน่ห์ เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ยาวนาน
-----------------------------------------------------------
4. ธีมแต่งงานโทนสีพาสเทล (Pastel Perfection) เฉดสีพาสเทลอ่อนๆ ยังคงเป็นที่นิยมในการสร้างความโรแมนติกและเสน่ห์เหนือกาลเวลา เฉดสีอย่างลาเวนเดอร์อ่อน สีเขียวมิ้นต์ และสีชมพูหวานเป็นที่คาดว่าจะได้เห็นในปี 2024-2025 เหมาะกับคู่รักที่ต้องการให้งานแต่งงานออกมาเหมือนอย่างเทพนิยาย
- Lavender
สีลาเวนเดอร์ให้ความรู้สึกโรแมนติกและเพ้อฝัน เหมาะกับคู่รักที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและนุ่มนวล
- Pink
สีชมพูอ่อนให้ความรู้สึกหวานและละเอียดอ่อน เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการความโรแมนติกและความรักที่บริสุทธิ์
- Blush and blue
สีชมพูอ่อนและฟ้าอ่อนให้ความรู้สึกอ่อนโยน หวานละมุนละไม และผ่อนคลาย เหมาะกับงานแต่งที่ต้องการบรรยากาศสบายๆ และละมุนนุ่มนวล
หวังว่าทริคการเลือกธีมแต่งงาน และ เทรนด์สีมาแรงประจำปี 2025 จะสามารถช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวทุกคนมีความสุขในการจัดเตรียมงานแต่งงานได้ไม่มากก็น้อย เพราะเราใส่ใจทุกรายละเอียดของคู่บ่าว-สาว ไม่เฉพาะในเรื่องสถานที่จัดงานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงดีเทลต่างๆ ของงาน ตามที่ประสบการณ์ของทีมงานจะจัดหาให้ได้ หากคู่รักท่านใดกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่ใส่ใจในรายละเอียด และมีทีมงานบริการครบวงจร ติดต่อเรา 👉🏻 คลิก👈🏻
หากคู่บ่าว-สาวสนใจเข้าชมสถานที่ หรือขอแพ็คเกจของอิมแพ็ค เวดดิ้ง ติดต่อได้ที่ 02 833 5252
รายละเอียดเพิ่มเติม: IMPACT Wedding Instagram หรือ IMPACT Wedding Facebook